ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่า โจทก์ไม่สามารถติดต่อทนายเพื่อทำฎีกามายื่นต่อศาลได้ทันภายในระยะเวลายื่นฎีกานั้นไม่ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย
ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่า โจทก์ไม่สามารถติดต่อทนายเพื่อทำฎีกามายื่นต่อศาลได้ทันภายในระยะเวลายื่นฎีกานั้นไม่ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติแล้วว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย การที่จำเลยฎีกาเถียงว่าโจทก์ร่วมมิใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายและข้อเท็จจริงอันเกิดจากข้อถามของโจทก์ร่วมซึ่งมิใช่เป็นผู้เสียหายย่อมเสียไปนั้น เป็นการเถียงในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งยุติแล้วเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ลงโทษจำคุกจำเลยเพียง 4 ปีฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามมิให้ฎีกา
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติแล้วว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย การที่จำเลยฎีกาเถียงว่าโจทก์ร่วมมิใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายและข้อเท็จจริงอันเกิดจากข้อถามของโจทก์ร่วมซึ่งมิใช่เป็นผู้เสียหายย่อมเสียไปนั้น เป็นการเถียงในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งยุติแล้วเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ลงโทษจำคุกจำเลยเพียง 4 ปีฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามมิให้ฎีกา
คำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยต้องยื่นก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 วรรคสองจะมายื่นในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาไม่ได้
คำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยต้องยื่นก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 วรรคสองจะมายื่นในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาไม่ได้
ผู้พิพากษาซึ่งทำความเห็นแย้งได้รับรองล่วงหน้าให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ถือว่าเป็นการอนุญาตให้ฎีกาแล้ว
ผู้พิพากษาซึ่งทำความเห็นแย้งได้รับรองล่วงหน้าให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ถือว่าเป็นการอนุญาตให้ฎีกาแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทจำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของตนโดยการครอบครองปรปักษ์ถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ แต่เมื่อที่ดินมีราคาเพียง4,000 บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทจำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของตนโดยการครอบครองปรปักษ์ถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ แต่เมื่อที่ดินมีราคาเพียง4,000 บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่จำเลยฎีกาว่า ศาลพิพากษานอกฟ้องนอกประเด็น เพื่อจะให้ศาลฟังข้อเท็จจริงเสียใหม่ว่า จำเลยทั้งสองไม่ได้ร่วมกันจัดพิมพ์หนังสือหมิ่นประมาทตามฟ้องนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งเลี่ยงแต่งให้เป็นข้อกฎหมาย
การที่จำเลยฎีกาว่า ศาลพิพากษานอกฟ้องนอกประเด็น เพื่อจะให้ศาลฟังข้อเท็จจริงเสียใหม่ว่า จำเลยทั้งสองไม่ได้ร่วมกันจัดพิมพ์หนังสือหมิ่นประมาทตามฟ้องนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งเลี่ยงแต่งให้เป็นข้อกฎหมาย
การร้องขอแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นฎีกานั้นต้องร้องขอมาพร้อมกับฎีกาจะร้องขอมาในภายหลังไม่ได้
การร้องขอแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นฎีกานั้นต้องร้องขอมาพร้อมกับฎีกาจะร้องขอมาในภายหลังไม่ได้
ฎีกาของจำเลยที่ 3 ซึ่งโต้แย้งในเรื่องเกี่ยวกับการวินิจฉัยคำพยานว่าสมควรจะเชื่อหรือไม่ โดยจำเลยเถียงว่าจำเลยมิได้กระทำความผิด เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ฎีกาของจำเลยที่ 3 ซึ่งโต้แย้งในเรื่องเกี่ยวกับการวินิจฉัยคำพยานว่าสมควรจะเชื่อหรือไม่ โดยจำเลยเถียงว่าจำเลยมิได้กระทำความผิด เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นซึ่งถือว่าเป็นการแก้มาก แต่เมื่อศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ คู่ความก็ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นซึ่งถือว่าเป็นการแก้มาก แต่เมื่อศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ คู่ความก็ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ศาลฎีกาอาจอนุญาตให้คู่ความอ้างคำพิพากษาศาลฎีกาในสำนวนคดีอื่นเป็นพยานหลักฐานได้ เมื่อคู่ความนั้นอ้างว่าไม่สามารถอ้างก่อนศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาเพราะตนเพิ่งได้ทราบคำพิพากษาฎีกานั้น
ศาลฎีกาอาจอนุญาตให้คู่ความอ้างคำพิพากษาศาลฎีกาในสำนวนคดีอื่นเป็นพยานหลักฐานได้ เมื่อคู่ความนั้นอ้างว่าไม่สามารถอ้างก่อนศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาเพราะตนเพิ่งได้ทราบคำพิพากษาฎีกานั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 4 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้รอการลงโทษจำเลยไว้มีกำหนด3 ปี ดังนี้เป็นการแก้ไขมาก แม้ฎีกาของโจทก์ในปัญหาที่ว่า ควรรอการลงโทษจำเลยหรือไม่ จะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ก็ไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 4 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้รอการลงโทษจำเลยไว้มีกำหนด3 ปี ดังนี้เป็นการแก้ไขมาก แม้ฎีกาของโจทก์ในปัญหาที่ว่า ควรรอการลงโทษจำเลยหรือไม่ จะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ก็ไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ฎีกาของจำเลยซึ่งโต้เถียงว่า การกระทำของจำเลยดังที่ศาลล่างฟังมานั้น ไม่เป็นความผิดในฐานรับของโจรแต่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ซึ่งโจทก์มิได้ฟ้อง ดังนี้เป็นการโต้เถียงในปัญหาข้อกฎหมาย
ฎีกาของจำเลยซึ่งโต้เถียงว่า การกระทำของจำเลยดังที่ศาลล่างฟังมานั้น ไม่เป็นความผิดในฐานรับของโจรแต่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ซึ่งโจทก์มิได้ฟ้อง ดังนี้เป็นการโต้เถียงในปัญหาข้อกฎหมาย
การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่ส่งอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ อันจะทำให้คำสั่งศาลอุทธรณ์เป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236นั้น หมายถึงคำสั่งยืนในเนื้อหาของอุทธรณ์ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับระยะเวลาสำหรับอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์แล้วคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นว่ายื่นอุทธรณ์เกินกำหนด 10 วันจึงไม่รับอุทธรณ์นั้น หาถึงที่สุดไม่แต่อุทธรณ์คำสั่งในปัญหาเช่นนี้ต้องยื่นภายในกำหนด 10วันถูกต้องแล้ว
การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่ส่งอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ อันจะทำให้คำสั่งศาลอุทธรณ์เป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236นั้น หมายถึงคำสั่งยืนในเนื้อหาของอุทธรณ์ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับระยะเวลาสำหรับอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์แล้วคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นว่ายื่นอุทธรณ์เกินกำหนด 10 วันจึงไม่รับอุทธรณ์นั้น หาถึงที่สุดไม่แต่อุทธรณ์คำสั่งในปัญหาเช่นนี้ต้องยื่นภายในกำหนด 10วันถูกต้องแล้ว
ปัญหาที่ว่า ที่ดินที่โจทก์ฟ้องเป็นที่บ้านหรือที่ดินมือเปล่า เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ปัญหาที่ว่า ที่ดินที่โจทก์ฟ้องเป็นที่บ้านหรือที่ดินมือเปล่า เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
จำเลยขอถอนฎีกาเมื่อโจทก์ยื่นคำแก้ฎีกาแล้ว ศาลจะต้องนัดสอบถามโจทก์เสียก่อนว่าจะคัดค้านหรือไม่เพียงแต่โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วเท่านั้นยังไม่เพียงพอ
จำเลยขอถอนฎีกาเมื่อโจทก์ยื่นคำแก้ฎีกาแล้ว ศาลจะต้องนัดสอบถามโจทก์เสียก่อนว่าจะคัดค้านหรือไม่เพียงแต่โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วเท่านั้นยังไม่เพียงพอ
ฎีกาจำเลยที่ว่าจำเลยได้ปฎิบัติถูกต้องตามกฎกระทรวงข้อ9 พ.ศ.2498 ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติป้องกันเรือโดนกันแล้วนั้น เท่ากับโต้แย้งว่าจำเลยมิได้ขับเรือโดยประมาทดังที่ศาลล่างวินิจฉัยนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ฎีกาจำเลยที่ว่าจำเลยได้ปฎิบัติถูกต้องตามกฎกระทรวงข้อ9 พ.ศ.2498 ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติป้องกันเรือโดนกันแล้วนั้น เท่ากับโต้แย้งว่าจำเลยมิได้ขับเรือโดยประมาทดังที่ศาลล่างวินิจฉัยนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คดีฟ้องขับไล่ออกจากที่พิพาทอันเป็นที่ดินมือเปล่า เมื่อจำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์ถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อทรัพย์พิพาทมีราคาเพียง 2,000 บาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย โจทก์จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248
คดีฟ้องขับไล่ออกจากที่พิพาทอันเป็นที่ดินมือเปล่า เมื่อจำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์ถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อทรัพย์พิพาทมีราคาเพียง 2,000 บาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย โจทก์จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248
การที่ศาลยกเอาเหตุต่างๆในสำนวนขึ้นประกอบการชั่งน้ำหนักคำพยานว่าควรเชื่อถือได้เพียงไรนั้น เป็นการวินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาจำเลยซึ่งโต้แย้งการวินิจฉัยดังกล่าวจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่ศาลยกเอาเหตุต่างๆในสำนวนขึ้นประกอบการชั่งน้ำหนักคำพยานว่าควรเชื่อถือได้เพียงไรนั้น เป็นการวินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาจำเลยซึ่งโต้แย้งการวินิจฉัยดังกล่าวจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่จะสั่งโอนคดีไปศาลอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 26 นั้น ต้องมีพฤติการณ์หรือเหตุผลที่อาจทำให้มีการขัดขวางต่อการพิจารณาหรือน่ากลัวว่าจะเกิดความไม่สงบหรือเหตุร้ายขึ้น เมื่อไม่มีเหตุดังกล่าว ก็ไม่เป็นเหตุที่จะสั่งโอนคดีได้
การที่จะสั่งโอนคดีไปศาลอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 26 นั้น ต้องมีพฤติการณ์หรือเหตุผลที่อาจทำให้มีการขัดขวางต่อการพิจารณาหรือน่ากลัวว่าจะเกิดความไม่สงบหรือเหตุร้ายขึ้น เมื่อไม่มีเหตุดังกล่าว ก็ไม่เป็นเหตุที่จะสั่งโอนคดีได้
ร้องขัดทรัพย์แล้วถูกศาลยกคำร้องเสีย ผู้ร้องจึงร้องขอให้ทุเลาการบังคับ พอแปลได้ว่าประสงค์จะให้งดขายหรือจำหน่ายทรัพย์พิพาทไว้ก่อน อันเป็นการขอให้สั่งคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างพิจารณา
ร้องขัดทรัพย์แล้วถูกศาลยกคำร้องเสีย ผู้ร้องจึงร้องขอให้ทุเลาการบังคับ พอแปลได้ว่าประสงค์จะให้งดขายหรือจำหน่ายทรัพย์พิพาทไว้ก่อน อันเป็นการขอให้สั่งคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างพิจารณา
|
ผู้ส่งข้อความ | วันที่ส่งข้อความ | ข้อความ | action |
---|