คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกานั้นเมื่อจำเลยถึงแก่กรรมสามีจำเลยมีสิทธิร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยได้
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกานั้นเมื่อจำเลยถึงแก่กรรมสามีจำเลยมีสิทธิร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยได้
การยื่นเอกสารต่อศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 90 ให้ยื่นก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันดังนั้นผู้ร้องจะมายื่นเอกสารภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดี ไปแล้วและไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอนุญาตไม่ได้
การยื่นเอกสารต่อศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 90 ให้ยื่นก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันดังนั้นผู้ร้องจะมายื่นเอกสารภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดี ไปแล้วและไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอนุญาตไม่ได้
เอกสารที่ผู้ร้องขอให้รับไว้เพื่อประกอบการพิจารณาของศาลฎีกานั้น เมื่อไม่จำเป็นแก่การที่จะวินิจฉัยชี้ขาดคดีจึงไม่เป็นเหตุสมควรที่จะอนุญาต
เอกสารที่ผู้ร้องขอให้รับไว้เพื่อประกอบการพิจารณาของศาลฎีกานั้น เมื่อไม่จำเป็นแก่การที่จะวินิจฉัยชี้ขาดคดีจึงไม่เป็นเหตุสมควรที่จะอนุญาต
ฎีกาผู้ร้องที่อ้างว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยผิดพลาดไปจากพยานหลักฐานในสำนวนนั้น เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงจะให้เป็นข้อกฎหมาย จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ฎีกาผู้ร้องที่อ้างว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยผิดพลาดไปจากพยานหลักฐานในสำนวนนั้น เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงจะให้เป็นข้อกฎหมาย จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดย อาศัยข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยออกเช็คให้นายทิฆัมพรไม่ใช่ออกให้โจทก์ร่วม โจทก์ร่วมจะฎีกาว่าจำเลยออกเช็คให้โจทก์ร่วมซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดย อาศัยข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยออกเช็คให้นายทิฆัมพรไม่ใช่ออกให้โจทก์ร่วม โจทก์ร่วมจะฎีกาว่าจำเลยออกเช็คให้โจทก์ร่วมซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คดีที่พิพาทกันมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นนั้นต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คดีที่พิพาทกันมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นนั้นต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
ปัญหาที่ว่า คำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องควรรับไว้พิจารณาต่อไปหรือควรยกเสียนั้นไม่เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ปัญหาที่ว่า คำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องควรรับไว้พิจารณาต่อไปหรือควรยกเสียนั้นไม่เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ผู้ร้องเป็นบุตรจำเลยและเป็นทายาทโดยธรรมตามกฎหมายร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลยผู้มรณะในระหว่างฎีกาไว้
ผู้ร้องเป็นบุตรจำเลยและเป็นทายาทโดยธรรมตามกฎหมายร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลยผู้มรณะในระหว่างฎีกาไว้
ผู้ร้องเพียงคาดคะเนเหตุการณ์ว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้น และในการพิจารณาที่ผ่านมาก็ไม่ปรากฎพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าจะเป็นการขัดขวางการพิจารณาคดีหรือมีเหตุว่าจะเกิดความไม่สงบหรือเหตุร้ายแต่ประการใด จึงไม่มีเหตุที่จะสั่งให้โอนคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 26
ผู้ร้องเพียงคาดคะเนเหตุการณ์ว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้น และในการพิจารณาที่ผ่านมาก็ไม่ปรากฎพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าจะเป็นการขัดขวางการพิจารณาคดีหรือมีเหตุว่าจะเกิดความไม่สงบหรือเหตุร้ายแต่ประการใด จึงไม่มีเหตุที่จะสั่งให้โอนคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 26
แม้ผู้ร้องจะร้องขอทุเลาการบังคับคดีแต่เมื่อกรณีเป็นการขอให้ศาลสั่งคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างพิจารณา ถ้าศาลเห็นเป็นการสมควร ก็สั่งให้ได้
แม้ผู้ร้องจะร้องขอทุเลาการบังคับคดีแต่เมื่อกรณีเป็นการขอให้ศาลสั่งคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างพิจารณา ถ้าศาลเห็นเป็นการสมควร ก็สั่งให้ได้
ฎีกาโจทก์ที่ว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ฎีกาโจทก์ที่ว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คดีอาญาที่มีจำเลยหลายคน ถ้าความผิดสำหรับจำเลยคนใดเด็ดขาดถึงที่สุดแล้วก็ออกหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สุดให้ จำเลยคนนั้นได้ในเมื่อจำเลยนั้นร้องขอ
คดีอาญาที่มีจำเลยหลายคน ถ้าความผิดสำหรับจำเลยคนใดเด็ดขาดถึงที่สุดแล้วก็ออกหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สุดให้ จำเลยคนนั้นได้ในเมื่อจำเลยนั้นร้องขอ
ฎีกาโจทก์ร่วมที่ว่า ข้อเท็จจริงตามคำพยานโจทก์จำเลยควรฟังว่า จำเลยมีเจตนาจะยิงโจทก์ร่วม ไม่ใช่เจตนาเพียงขู่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ฎีกาโจทก์ร่วมที่ว่า ข้อเท็จจริงตามคำพยานโจทก์จำเลยควรฟังว่า จำเลยมีเจตนาจะยิงโจทก์ร่วม ไม่ใช่เจตนาเพียงขู่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ทำสัญญาค้ำประกันจำเลยไว้ต่อศาลในระหว่างฎีกา ย่อมมีผลผูกพันผู้ค้ำประกันจนกระทั่งศาลฎีกาพิพากษา และจะขอถอนสัญญาค้ำประกันไม่ได้หากไม่ปรากฎว่าโจทก์ได้ยินยอมด้วย
ทำสัญญาค้ำประกันจำเลยไว้ต่อศาลในระหว่างฎีกา ย่อมมีผลผูกพันผู้ค้ำประกันจนกระทั่งศาลฎีกาพิพากษา และจะขอถอนสัญญาค้ำประกันไม่ได้หากไม่ปรากฎว่าโจทก์ได้ยินยอมด้วย
คดีความผิดต่อส่วนตัว ผู้เสียหายมีสิทธิถอนคำร้องทุกข์ได้ก่อนคดีถึงที่สุด
คดีความผิดต่อส่วนตัว ผู้เสียหายมีสิทธิถอนคำร้องทุกข์ได้ก่อนคดีถึงที่สุด
ฎีกาจะต้องกล่าวอ้างข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายโดยชัดแจ้ง
ฎีกาจะต้องกล่าวอ้างข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายโดยชัดแจ้ง
ฎีกาจำเลยที่ว่า เมื่อศาลไม่รับฟังเอกสารใบรับเงินเพราะมิได้ปิดอากรแสตมป์แล้วชอบที่จะยกฟ้องโจทก์โดยมิต้องรับฟังเอกสารและคำเบิกความพยานอื่นนั้น. แม้จะไม่รับฟังใบรับเงินเป็นพยาน โจทก์ก็มีพยานอื่นรับฟังได้ว่ามีการรับเงินตามใบรับเงินแล้ว จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังต้องกันว่าสามีจำเลยทำสัญญากู้เงิน โดยโจทก์เป็นผู้ค้ำประกัน และคดีนี้มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาทซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ดังนั้นจำเลยจะฎีกาว่าสามีจำเลยไม่ได้ทำสัญญากู้ ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามฎีกาใน ปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248
ฎีกาจำเลยที่ว่า เมื่อศาลไม่รับฟังเอกสารใบรับเงินเพราะมิได้ปิดอากรแสตมป์แล้วชอบที่จะยกฟ้องโจทก์โดยมิต้องรับฟังเอกสารและคำเบิกความพยานอื่นนั้น. แม้จะไม่รับฟังใบรับเงินเป็นพยาน โจทก์ก็มีพยานอื่นรับฟังได้ว่ามีการรับเงินตามใบรับเงินแล้ว จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังต้องกันว่าสามีจำเลยทำสัญญากู้เงิน โดยโจทก์เป็นผู้ค้ำประกัน และคดีนี้มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาทซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ดังนั้นจำเลยจะฎีกาว่าสามีจำเลยไม่ได้ทำสัญญากู้ ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามฎีกาใน ปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248
ฎีกาจำเลยซึ่งโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินของรัฐ เป็นฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ลงโทษปรับจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ฎีกาจำเลยซึ่งโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินของรัฐ เป็นฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ลงโทษปรับจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คดีความผิดอันยอมความกันได้ซึ่งอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา เมื่อผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์แล้วคดีก็เป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
คดีความผิดอันยอมความกันได้ซึ่งอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา เมื่อผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์แล้วคดีก็เป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
ฎีกาของจำเลยที่ว่า ที่พิพาทไม่เป็นที่ดินซึ่งทางราชการสงวนไว้เป็นที่สาธารณประโยชน์ เพราะมิได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินฯ พ.ศ.2478 มาตรา4,5 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ต้องห้ามฎีกา
ฎีกาของจำเลยที่ว่า ที่พิพาทไม่เป็นที่ดินซึ่งทางราชการสงวนไว้เป็นที่สาธารณประโยชน์ เพราะมิได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินฯ พ.ศ.2478 มาตรา4,5 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ต้องห้ามฎีกา
|
ผู้ส่งข้อความ | วันที่ส่งข้อความ | ข้อความ | action |
---|